เมนู

[320] นิสสารณียธาตุ ธาตุที่ควรเพื่อความออกไป 6


1. ดูก่อนท่านผู้ อายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึงกล่าว
อย่างนี้ว่า ก็เจโตวิมุตติที่ประกอบด้วยเมตตาแล เราอบรมแล้ว ทำให้มาก
แล้ว ทำให้เป็นดังยานแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว
ปรารภดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น พยาบาทก็ยังครอบงำจิตของเราตั้งอยู่ได้
ดังนี้. ภิกษุนั้นพึงถูกว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุ อย่าได้พูดอย่างนั้น
อย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า การกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ดีเลย
เพราะว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่พึงตรัสอย่างนี้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ข้อที่เธอกล่าวว่า เมื่อบุคคลอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดังยานแล้ว
ทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว ทำให้คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้วซึ่ง
เจโตวิมุตติประกอบด้วยเมตตาอันใด ถึงอย่างนั้น พยาบาทจักครอบงำจิตของ
เขาตั้งอยู่ได้ ดังนี้ นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะเจโตวิมุตติประกอบด้วยเมตตานี้ เป็น
ธรรมเครื่องสลัด ซึ่งความพยาบาท.
2. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึงกล่าว
อย่างนี้ว่า เจโตวิมุตติประกอบด้วยกรุณาแล อันเราอบรมแล้ว กระทำให้
มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว
สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น วิเหสาก็ยังครอบงำจิตของเรา
ตั้งอยู่ได้ ดังนี้. เธอควรลูกว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้กล่าวตู่พระผู้มี
พระภาคเจ้าอย่างนั้น เพราะการกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ดีเลย พระผู้มี
พระภาคเจ้าไม่ตรัส อย่างนั้น. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อที่เธอกล่าวว่า

เมื่อบุคคลอบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำ
ให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้วซึ่งเจโตวิมุตติ
ประกอบด้วยกรุณา อันใด แต่ถึงอย่างนั้น วิเหสาก็จักครอบงำจิตของเราตั้ง
อยู่ได้ ดังนี้ นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อน
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะเจโตวิมุตติประกอบด้วยกรุณานี้ เป็นเครื่องสลัด
ออกซึ่งวิเหสา.
3. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึง
กล่าวอย่างนี้ว่า เจโตวิมุตติประกอบด้วยมุทิตาแล อันเราอบรมแล้ว
กระทำให้มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว
คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น อรติก็ยังครอบงำ
จิตของเราตั้งอยู่ได้ ดังนี้. เธอพึงถูกกล่าวหาว่า ท่านอย่าพูดอย่างนั้น
ท่านผู้มีอายุ ท่านอย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า เพราะการกล่าวตู่พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าไม่ดีเลย พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่พึงตรัสอย่างนั้น. . ข้อที่ท่าน
กล่าวว่าบุคคลอบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระ-
ทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้วซึ่งเจโตวิมุตติ
อันประกอบด้วยมุทิตา อันใด แต่ถึงอย่างนั้น อรติก็จักครอบงำจิตของเรา
ตั้งอยู่ได้ ดังนี้ นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
เพราะว่าเจโตวิมุตติประกอบด้วยมุทิตานี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งอรติ.
4. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ว่า เจโต
วิมุตติประกอบด้วยอุเบกขาแล อันเราอบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว ทำ
ให้เป็นดังยานแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว
ปรารภดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ราคะก็ยังครอบงำจิตของเราตั้งอยู่ได้ ดังนี้.

เธอก็ควรถูกว่ากล่าวดังนี้ว่า ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนี้ ท่านผู้มีอายุ อย่าได้
กล่าวอย่างนี้ อย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า เพราะการกล่าวตู่พระผู้มี
พระภาคเจ้าไม่ดีเลย พระผู้มีพระภาคเจ้าจะไม่พึงตรัสอย่างนี้. ดูก่อนท่านผู้มี
อายุทั้งหลาย ข้อที่ท่านกล่าวว่า เมื่อบุคคลอบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว
กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว
สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว ซึ่งเจโตวิมุตติประกอบด้วยอุเบกขา แต่ถึงอย่างนั้น
ราคะก็ยังครอบงำจิตของเขาตั้งอยู่ได้ ดังนี้ นั้น นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะเจโตวิมุตติ
ประกอบด้วยอุเบกขานี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งราคะ.
5. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึง
กล่าวอย่างนี้ว่า เจโตวิมุตติที่ไม่มีนิมิตแล อันเราอบรมแล้ว กระทำให้
มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำให้เป็นที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่ว
แล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น วิญญาณที่แล่นไปตาม
นิมิต ก็ยังมีอยู่แก่เรา ดังนี้ เธอควรถูกว่ากล่าวว่า ท่านอย่าได้พูดอย่างนี้
ท่านผู้มีอายุอย่าได้กล่าวอย่างนี้ อย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า การกล่าว
ตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่เป็นการดีเลย เพราะว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าจะไม่
พึงตรัสอย่าง. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อที่ท่านกล่าวว่า เมื่อบุคคล
อบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว กระทำให้เป็นดังยานแล้ว กระทำให้เป็น
ที่ตั้งแล้ว คล่องแคล่วแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว ซึ่งเจโตวิมุตติที่หา
นิมิตมิได้ แต่ถึงอย่างนั้น วิญญาณที่แล่นไปตามนิมิตก็จักมีแก่เขา ดังนี้

นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ
ทั้งหลาย เจโตวิมุตติอันไม่มีนิมิตนี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งนิมิตทุกอย่าง.
6. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึงกล่าว
อย่างนี้ว่า เมื่อการถือว่าเรามีอยู่ ดังนี้ เมื่อการถือว่าเรา หมดไปแล้ว
เราก็มิได้พิจารณาเห็นว่า เรามีอยู่. แต่ถึงอย่างนั้น ลูกศรคือความเคลือบ
แคลงสงสัยก็ยังครอบงำจิตของเราตั้งอยู่ได้ ดังนี้. เธอก็ควรถูกว่ากล่าว
อย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนี้ ท่านผู้มีอายุอย่าได้พูดอย่างนี้ อย่าได้
กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า การกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นการไม่ดีเลย
เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าจะไม่พึงตรัสอย่างนี้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ข้อที่ท่านกล่าวว่า เมื่อการถือว่าเรามีอยู่ ดังนี้หมดไปแล้ว และเมื่อเขา
ยังมิได้พิจารณาเห็นว่าเรามีอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ลูกศรคือความเคลือบแคลง
สงสัยก็จักครอบงำจิตของเขาตั้งอยู่ได้ ดังนี้ นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะธรรมอัน
ถอนขึ้นซึ่งมานะในกาวถือว่าเรามีอยู่นี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งลูกศร คือ
ความเคลือบแคลงสงสัย.

[321] อนุตตริยะ 6


1. ทัสสนานุตตริยะ การเห็นอันยอดเยี่ยม
2. สวนานุตตริยะ การฟังอันยอดเยี่ยม
3. ลาภานุตตริยะ การได้อันยอดเยี่ยม
4. สิกขานุตตริยะ การศึกษาอันยอดเยี่ยม
5. ปาริจริยานุตตริยะ การบำรุงอันยอดเยี่ยม
6. อนุสสตานุตตริยะ การระลึกอันยอดเยี่ยม.